นักดาราศาสตร์ยืนยัน ไททันมีทะเลสาบจริง
ทะเลสาบที่ราบเรียบราวกระจกเงาอันอบอวลไปด้วยไอหมอกไฮโดรคาร์บอนบนดวงจันทร์ไททันของดาวเสาร์ตามจินตนาการของศิลปิน ภาพเช่นนี้เคยเป็นเพียงข้อสันนิษฐานมาเป็นเวลานาน บัดนี้นักดาราศาสตร์สามารถยืนยันได้หนักแน่นว่า บนไททันมีทะเลสาบไฮโดรคาร์บอนอยู่จริง
ในที่สุด นักวิทยาศาสตร์จากนาซา ก็ได้ข้อสรุปเป็นที่แน่นอนแล้วว่า บนไททันซึ่งเป็นดวงจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดของดาวเสาร์ มีทะเลสาบไฮโดรคาร์บอนเหลวแน่นอนอย่างน้อยหนึ่งแห่ง
การยืนยันครั้งนี้ ทำให้ไททันกลายเป็นวัตถุในระบบสุริยะดวงที่สองนับจากโลกที่มีของเหลวอยู่บนพื้นผิว
ก่อนยุคของแคสซีนี นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าไททันอาจมีทะเลหรือมหาสมุทรที่ประกอบด้วยไฮโดรคาร์บอนเหลวเช่นอีเทนและมีเทนปกคลุมทั่วทั้งดวง แต่จากการที่แคสซีนีเฉียดเข้าใกล้ไททันมากว่า 40 ครั้ง ไม่พบหลักฐานของมหาสมุทรแบบที่ว่า แต่กลับพบสิ่งที่ดูเป็นแผ่นเรียบสีคล้ำที่ดูเหมือนทะเลสาบอยู่นับร้อยแห่ง แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสิ่งเหล่านั้นคือของเหลวจริงหรือไม่ หรืออาจเป็นเพียงวัตถุแข็งสีดำก็ได้
การค้นพบครั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้อุปกรณ์ที่ติดอยู่บนยานแคสซีนี ตรวจหาองค์ประกอบทางเคมีที่อยู่ในวัตถุต่าง ๆ โดยอาศัยการดูดกลืนและสะท้อนรังสีอินฟราเรด
บรรยากาศของไททันประกอบด้วยไนโตรเจนถึง 95 เปอร์เซ็นต์ อีกห้าเปอร์เซ็นต์ที่เหลือคือมีเทน และยังมีอีเทนกับไฮโดรคาร์บอนพื้นฐานชนิดอื่นเป็นผลิตผลทางเคมีที่เกิดจากมีเทนในบรรยากาศสลายไปโดยแสงอาทิตย์
ไฮโดรคาร์บอนบางส่วนยังคงมีปฏิกิริยาต่อไปเป็นละอองลอยอยู่ในบรรยากาศ กลายเป็นม่านหมอกหนาปกคลุมพื้นผิวไททันจนดูขมุกขมัว ทำให้การจำแนกชนิดของวัตถุบนพื้นผิวทำได้ยากลำบาก ส่วนอีเทนเหลวจำแนกออกมาได้โดยใช้เทคนิคกำจัดสิ่งรบกวนจากไฮโดรคาร์บอนในบรรยากาศ
ทะเลสาบแห่งแรกที่ค้นพบนี้มีชื่อว่า ออนแทริโอลากัส อยู่บริเวณใกล้ขั้วใต้ของไททัน มีพื้นที่ประมาณ 20,200 ตารางกิโลเมตรหรือใหญ่กว่าทะเลสาบออนแทริโอเล็กน้อย
อีเทนที่พบในทะสาบออนแทริโอลากัสละลายอยู่ในมีเทนรวมถึงไฮโดรคาร์บอนชนิดอื่นและไนโตรเจนด้วย ที่อุณหภูมิพื้นผิว -185 องศาเซลเซียสของไททัน ทำให้สสารเหล่านี้อาจอยู่ได้ทั้งในรูปของเหลวและของแข็ง นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานมากมายที่แสดงถึงการระเหย การกลั่นตัวเป็นฝน และการไหลรินท่วมขังของไฮโดรคาร์บอนอยู่บนนั้น
บนโลกเรามีวัฏจักรของน้ำ ไททันก็มีวัฏจักรของมีเทนเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน การสำรวจนี้ยังพบว่าทะเลสาบนี้กำลังลดลง เนื่องจากพบคราบดำเกาะเป็นวงอยู่บนชายฝั่ง และยังพบตลิ่งที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในขณะที่ระดับของเหลวในทะเลสาบลดลงไป
นักดาราศาสตร์คาดว่าภายในไม่กี่ปีข้างหน้านี้ เรดาร์ของแคสซีนีจะพบทะเลสาบอีกมากบริเวณขั้วเหนือซึ่งจะทยอยปรากฏขึ้นเมื่อแสงอาทิตย์กลับมาฉายพื้นผิวบริเวณนี้อีกครั้งตามฤดูกาล และเมื่อนั้นอุปกรณ์อินฟราเรดของแคสซีนีก็จะสามารถศึกษาการเปลี่ยนแปลงของทะเลสาบตามฤดูกาลได้ด้วย
ยานแคสซีนีพร้อมกับอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ 12 ชิ้นออกเดินทางจากโลกเมื่อปี 2540 โครงการนี้โครงการร่วมระหว่างองค์การนาซา องค์การอีซา และองค์การอวกาศอิตาลี
ที่มา:
|