ดวงดาวของชาวนา
"ข้าว " เป็นพืชตระกูลหญ้าอันทรงคุณอนันต์ ในหนึ่งเมล็ดข้าวมีธาตุอาหารทุกอย่างที่ชีวิตมนุษย์ต้องการ ข้าวนำมาซึ่งประเพณีและพิธีกรรมหลากหลายสัมพันธ์อยู่ตลอดในกระบวนการปลูกข้าว ทั้งพิธีแรกนา ทำขวัญข้าว ทำขวัญควาย ฯลฯ ข้าวยังสัมพันธ์กับฤดูกาลระบบน้ำธรรมชาติชนิดที่เมื่อมีการสร้างเขื่อนครั้งแรกๆ ทางตอนเหนือ ทุ่งข้าวย่านทุ่งครุ บางบอน ฝั่งธนบุรี " ม้าน " แห้งลีบตายทั้งทุ่ง จนชาวนาต้องทิ้งข้าวหันไปทำสวนส้มกันแทน คุณลุงสุดใจ ปานสง่า อดีตชาวนาทุ่งครุเล่าว่า หลังเปิดเขื่อนได้ปีสองปี ไม่เคยมี " น้ำอาบวัว " ที่มีตะกอนดินข้นแดงบ่าไหลลงมาอีก ข้าวไม่ติดเมล็ดเพราะน้ำหมด " ยาง " ไปแล้ว
นอกจากระบบน้ำ ชาวนาภาคกลางยังชำนาญยิ่งในการกำหนดฤดูชีวิตของข้าวด้วยฤดูหมุนเวียนของดวงดาว คุณตาผาด ทองรอด ชาวนาย่านทวีวัฒนาวัย ๘๓ ปี เล่าให้ฟังว่า หน้านวดข้าวคุณตาเคยอาศัยดูลักษณะการกลับตัวของ ดาวจระเข้ ตำแหน่งบนท้องฟ้าของ ดาวไถ ลักษณะการเอียงตัวของ ดาวคันชั่ง ซึ่งมีสองลูกสุกสว่าง "ดึกมากมันจะเอียงผิดกัน " คุณตาว่าไว้อย่างนั้น
แม่ละออ โพระดก ชาวบ้านหนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เล่าให้ฟังว่า ชาวนาบ้านหนองขาวทุกคนล้วนดูดาวเป็นในเดือน ๖-๘ (พฤษภาคม-กรกฎาคม) ซึ่งเป็นหน้านา เขาจะอาศัยดูดาวระพริก ( Venus) หากเห็นขึ้นสุกสว่างทางทิศตะวันออกพ้นยอดไม้เมื่อใดแสดงว่าใกล้รุ่ง ถึงเวลาออกนาได้พอดี
แม่ลออยังเล่าเพิ่มเติมอีกว่า ชาวนาบ้านหนองขาวนิยมทำตาลโตนด เขาได้ใช้ดาวระพริกหรือดาวพระศุกร์ทำนายความสมบูรณ์ของน้ำตาลในแต่ละปีดังนี้ คือ ทำน้ำตาลถ้าดาวระพริกสุก (สว่าง) จะทำตาลง่าย ได้น้ำตาลดี แต่ถ้าดาวระพริกไม่สุก ทำตาลยาก
ส่วนตาโต๊ะ นิลกัน ชาวนาบ้านไร่มะนาว อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เล่าว่า พอถึงเดือนอ้าย เดือนยี่ เดือนสาม (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) ในหน้าเกี่ยวข้าวจะอาศัยดู ดาวจระเข้ ( Ursa Major) หากจระเข้บ่ายหัวลง หางโบก แสดงว่าใกล้สว่างอยู่ในราวตี ๔-๕ ต้องลุกออกนาไปเกี่ยวข้าวกันแล้ว หรือมิฉะนั้น ก็อาศัยดูเวลาจาก ดาวไถ (ส่วนเข็มขัดนายพรานของนักษัตร Orion ) ซึ่งแม่ลออคนหนองขาวเล่าว่าถ้าดาวไถบ่ายลงทิศตะวันตกหมายความว่าใกล้จะสว่างอยู่เต็มทีแล้ว
ตาโต๊ะ ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ยังมีดาวว่าวและดาวคันชั่ง ขึ้นเคียงกันทางทิศอาคเนย์และเคลื่อนที่เกาะขอบฟ้าทิศใต้ไปทางหรดี ถึงเวลาเที่ยงคืน ดาวว่าวจะเชิดหัวตรงเป๋ง พอใกล้สว่างดวงขวาจะเอียงลง เช่นเดียวกับดาวคันชั่งที่ยิ่งใกล้สว่าง ดวงขวายิ่งเอียงลงเรื่อยๆ
ดาวว่าวที่ตาโต๊ะกล่าวถึงคือกลุ่มดาว Southern Cross ส่วนดาวคันชั่งนั้นหมายถึงดาว Alpha Centauri และดาว Beta Centauri และตาโต๊ะ ยังเล่าถึงดาวอีกกลุ่มหนึ่งที่ขึ้นตอนใกล้สว่าง คือ ดาวหมาหลับ ซึ่งปู่ย่าบอกสืบต่อกันมาว่า ดาวกลุ่มนี้ขึ้นทางทิศใต้ และเป็นหมายสำคัญให้ระวังโจรขึ้นบ้าน เพราะเมื่อดาวหมาหลับออกให้เห็น ทั้งหมาทั้งเจ้าของบ้านจะง่วงเหงาหลับอุตุ หมาไม่เห่า คนไม่ตื่น พวกมิจฉาชีพถือเป็นดาวสำคัญในการออกหากิน แต่เดี๋ยวนี้ชี้ไม่ถูกแล้วว่า ดาวหมาหลับอยู่ตรงไหน
สำหรับชาวบ้านไทยคนที่ดูดาวเก่งๆ หากรู้เพียงว่าอยู่ในช่วงเดือนไหน แค่แหงนมองท้องฟ้า ดูดว่าดาวกลุ่มใดกำลังขึ้น กลุ่มใดกำลังตก ก็สามารถบอกเวลาได้คร่าวๆ แล้วว่าอีกกี่ชั่วโมงจะรุ่งเช้า โดยเฉพาะหากรู้จักกลุ่มดาวจักรราศีทั้ง ๑๒ ราศีจะยิ่งระบุเวลาได้แม่นยำมากขึ้น เนื่องจากดาวแต่ละราศีจะขึ้นห่างกันประมาณ ๒ ชั่วโมง ทำให้การคาดคะเนเรื่องเวลาเป็นไปอย่างใกล้เคียงความเป็นจริง
ในข้าวหนึ่งเมล็ดมิได้มีเพียงทุกธาตุอาหารที่มนุษย์ต้องการ แต่ยังกอปรไปด้วยพิธีกรรม ฤดูกาล ความเข้าใจถึงฟากฟ้า และระบบโคจรของดวงดาว ที่ชาวนาภาคกลางได้สั่งสมภูมิปัญญาสืบเนื่องมาจากบรรพชน
|