ดวงดาวของชาวอีสาน
การดูเวลา
ท้าวจันทะคาด เกตะวง คนลาวเมืองสะหวันนะเขต ซึ่งมีวัฒนธรรมเดียวกับไทยอีสานครั่งอดีตของจังหวัดมุกดาหาร เล่าให้ฟังว่า กลุ่มดาวที่ใช้เป็นหมายสำคัญของการเปลี่ยนฤดูทำนาคือดาววี ( Pleides)
ท้าวจันทะคาดอธิบายความเพิ่มเติมว่า ช่วงดำนา ชาวนาจะดำนาเกินฤดูหรือไม่ต้องอาศัยดูดาววี โดยดูว่าคืนใดพอฟ้ามือสนิท ถ้าเห็นดาววีบ่าย (คล้อยไปทางตะวันตก) แสดงว่าเดือน ๗ เดือน ๘ มาถึงแล้ว ควรหยุดปักดำข้าวกล้า ขืนทำต่อไปข้าวจะไม่เป็น ไม่ได้ผล
ส่วนหน้าตีข้าวก็ต้องสังเกตดาววีเช่นกัน เพราะราวๆ เดือน ๑๒ ยิ่งใกล้รุ่งดาววีจะยิ่งคล้อยลงตะวันตก คนลาวจึงตื่นมาเบิ่งดาววี หากเห็นดาววีบ่ายแสดงว่าใกล้แจ้งเต็มทน ถึงเวลาต้องลุกขึ้นตีข้าวได้แล้ว
การตีข้าวจะทำเรื่อยไปถึงกลางคืน บางคนตีข้าวหลายจนดาววีเที่ยง (ขึ้นตรงหัว) พอดาววีเริ่มบ่าย แสดงว่าได้เวลาหยุดตีข้าวเพราะดึกมากแล้ว
ดาววีของไทยอีสานและไทยลาวนี้ก็คือกลุ่มดาวลูกไก่ มองเห็นคลี่เป็นรูป " วี " หรือพัดในภาษาไทยภาคกลาง ดางกลุ่มนี้ยังเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า " ดาวไก่หน้อย " เพราะมาอยู่เป็นยุ่มๆ เหมือนฝูงลูกไก่
ท้าวจันทะคาดยังเล่าอีกว่า ดาววี เดือน ๑๒ เห็นแจ้งกว่าดาววีในฤดูทำนา
ส่วนพวกหัวขโมยนั้น ท้าวจันทะคาดบอกว่า จะคอยดูจังหวะปฏิบัติงานในเวลาที่ ดาวหมาหลับ ขึ้น เพราะช่วงนั้นหมาจะง่วงนอน พวกลักวัวลักควายเข้าไปเอาได้สะดวก แต่ท้าวจันทะคาดก็ไม่รู้ว่า ดาวหมาหลับเป็นดาวดวงไหน
ส่วนดาวอีกดวงหนึ่งที่คนลาวรู้จักกันทั่วไปคือ ดาวหมูซัง เวลาดาวหมูซังขึ้นทั้งหมูป่าหมูบ้านจะนอนง่วงเหงา พอดาวนี้ตกหมูป่าจึงค่อยออกหากิน
ดาวหมูซังที่กล่าวถึงนี้ หมายถึง ดาวพระศุกร์ ( Venus) ขึ้นทางทิศตะวันตกในตอนค่ำ
คติดูดาวของไทยลาวสอดคล้องอย่างยิ่งกับไทยอีสาน พ่อทองอ่อน สิทธิไกรพงษ์ ให้ความรู้ว่า ทางขอนแก่นนั้นเวลาขโมยจะขึ้นบ้านก็ดู ดาวหมาหลับ เช่นกัน เรียกว่ายามหมาหลับหรือยามหมานอน ถือเป็นยามปลอด ทั้งคนทั้งหมาหลับกันหมดบ้าน
ส่วนทางหนองบัวลำภูนั้น แม่ปทุมา พลบูรณ์ ระบุตำแหน่งและลักษณะของดาวหมาหลับว่า ดาวหมาหลับขึ้นเป็นหมู่ ช่วงเดือนอ้ายมองเห็นตอนใกล้เช้า รุ่งสว่างทางทิศใต้
นอกจากนี้พวกนายฮ้อยต้อนควายและพ่อค้าเกวียนอีสานยังอาศัยรู้เวลารุ่งเช้าจาก ดาวเพ็ก มองเห็นรุ่งสว่างทางทิศตะวันออกตั้งแต่ตีสี่ บอกให้รู้ว่าถึงเวลาต้องตื่นลุกขึ้นต้อนควาย
ชาวบ้านอีสานเรียกดาวเคราะห์ Venus ที่ขึ้นตอนหัวค่ำว่า " ดาวหมูซัง " และเรียกดาวดวงเดียวกันที่ขึ้นตอนใกล้เช้านี้ว่า " ดาวเพ็ก "
ยายรุน หล่มสาลี ได้กล่าวเพิ่มเดิมอีกว่า คนอีสานยังใช้ดาวเพ็กบอกเวลาใกล้แจ้งเพื่อลุกขึ้นตีข้าวอีกด้วย
ส่วนดาวไก่หน้อยหรือดาวลูกไก่ของภาคกลางนั้น คนอีสานบอกว่าเป็นพี่ของดาวช้าง ( Ursa Major) เพราะจะขึ้นให้เห็นก่อนดาวช้าง ดาวไก่หน้อยนี้ปรากฏในโคลงผญาเว้าสาวเว้าบ่าวอีกด้วยว่า
" ดาวไก่หน้อยป้องแม่เมียนอน ดาวใคร่สอนป้องพี่ชายเม่ยซ้อน "
ซึ่งเป็นโคลงที่กล่าวเปรียบว่า เมื่อดาวลูกไก่ขึ้นก็ได้เวลาที่บ่าวสาวชวนกันไปร่วมหลับนอน (เมียคือคำว่า เมือ แปลว่า กลับไป)และยายรุนับยายปทุมายังบอกด้วยว่า คนอีสานเรียกดาวไถว่า ดาวดั้ง เพราะเหมือนกับใบดั้งที่ยื่นลงมาจากจั่วบ้าน
ปัจจุบันนี้ มีแต่คนอีสานอายุหกสิบขึ้นทั้งนั้นที่ยังดูดาวเป็น และให้ข้อมูลที่ค่อนข้างแม่นยำ ส่วนเด็กรุ่นใหม่ที่ถูกชุบย้อมด้วยจินตนาการของโลกรุ่นใหม่ เวลาแหงนมองท้องฟ้าเขาอาจจะรู้จัดดาววี ดาวดั้ง ดาวไก่หน้อย และดาวช้าง แต่ " ชีวิต " อันเกี่ยวเนื่องเบื้องหลังดวงดาวดูจะถอยห่างจากโลกของเขาไม่ไกลนัก นาฬิกาและปฏิทินได้ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์เป็นความรู้ใหม่ที่เข้ามาท ด แทน ส่วนดวงดาวก็ยังพร่างรอยสว่างอยู่เต็มฟ้า เป็นขุมทรัพย์นับอนันต์ให้คนและโลกรุ่นต่อๆ ไปค้นหาปรีชาญาณจากเบื้องบนกันอย่างไม่จบสิ้น
|